SCGC ประเมินสถานการณ์เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเสนอขายหุ้น IPO หลังได้รับอนุมัติแบบคำขอฯ จากสำนักงาน ก.ล.ต. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนนวัตกรรมเคมีภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ 

SCGC ประเมินสถานการณ์เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเสนอขายหุ้น IPO หลังได้รับอนุมัติแบบคำขอฯ จากสำนักงาน ก.ล.ต. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนนวัตกรรมเคมีภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ 

เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ เอสซีจีซี (SCGC) ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ จากสำนักงาน ก.ล.ต. ในวันที่ 5 ตุลาคม 2565 พร้อมติดตามสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อประเมินระยะเวลาที่เหมาะสมและความเชื่อมั่นของนักลงทุน ก่อนที่จะเดินหน้าเสนอขายหุ้นIPO และนำหุ้นของ SCGC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป ล่าสุดได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีและเครื่องจักรใหม่ในบริษัทซีพลาสต์ โปรตุเกส เพื่อขยายกำลังผลิตพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ชนิดพอลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง (High Quality Post-Consumer Recycled Resin – PCR) ตอบรับความต้องการของตลาดยุโรปและแอฟริกาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนก่อสร้างโครงการ LSP คอมเพล็กซ์ปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในประเทศเวียดนาม มีความคืบหน้าตามแผนที่วางไว้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 

นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือSCGC เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเสนอขายหุ้น IPO ว่า ปัจจุบัน SCGC ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์จากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 อย่างไรก็ตามเนื่องจากสถานการณ์และปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น ภาวะวิกฤติพลังงานและเงินเฟ้อ ความผันผวนของราคาพลังงาน การล็อกดาวน์ของประเทศจีนจาก COVID-19 แนวโน้มของเศรษฐกิจ ความกังวลต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ตลอดจนภาวะตลาดเงินและตลาดทุน รวมไปถึงสภาวะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ คาดว่าการเสนอขายหุ้น IPO และการนําหุ้นของ SCGC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อาจไม่เกิดขึ้นภายในปี 2565 โดยจะมีการพิจารณาความเหมาะสมต่อไปในช่วงต้นปี 2566 

แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกอาจมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม SCGC ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมเคมีภัณฑ์ โดยเน้นไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA: High Value Added Products and Services) เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตแก่ผู้บริโภค และมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ Green Innovation ซึ่งได้ร่วมกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ พัฒนาบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกจาก SCGC GREEN POLYMERTM  โดยนำเสนอนวัตกรรมพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงชนิดไร้กลิ่น สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเน้นกลิ่นหอมโดยเฉพาะ 

ล่าสุด เพื่อเร่งป้อนผลิตภัณฑ์รักษ์โลกในตลาดในยุโรปและแอฟริกา SCGC ได้เดินหน้าลงทุนด้านเทคโนโลยีและเครื่องจักรใหม่ในบริษัทซีพลาสต์ โปรตุเกส หลังจากได้ซื้อหุ้นร้อยละ 70 ใน Sirplaste-Sociedade Industrial de Recuperados de Plástico, S.A. (Sirplaste) เมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา โดยจะขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ชนิดพอลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง (High Quality Post-Consumer Recycled Resin – PCR) 9,000 ตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 25% ของกำลังการผลิตรวม ณ ปัจจุบัน ส่งผลให้บริษัทซีพลาสต์ จะมีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลรวมกว่า 45,000 ตันต่อปี ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ตอกย้ำศักยภาพผู้นำเคมีภัณฑ์ครบวงจรอย่างยั่งยืน 

สำหรับ การก่อสร้างโครงการ LSP คอมเพล็กซ์ปิโตรเคมี (Long Son Petrochemical Complex) ในประเทศเวียดนาม มีความคืบหน้าตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 

ข่าวเกี่ยวข้อง